
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2021/22
คืนวันพุธที่ 6 เมษายน 2022
บียาร์เรอัล 1-0 บาเยิร์น มิวนิค
สนาม : เอสตาดิโอ เด ลา เซรามิก้า
บียาร์เรอัล เปิดบ้านเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค 1-0 ในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021-2022 รอบ 8 ทีมนัดแรก เป็นการเจอกันระหว่าง บียาร์เรอัล เปิดรังเหย้า เอสตาดิโอ เด ลา เซรามีก้า ต้อนรับการมาเยือนของ ยูเวนตุส
อูไน เอเมรี ที่ปรึกษาเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ด้วยการใช้สามผสานแนวรุกในแดนหน้าเป็น โจวานี่ โล เซลโซ, เคราร์ด โมเรโน่ แล้วก็ อาร์เนาต์ ดันจูมา
ด้านทีมเยือนของ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำเกมรุกร่วมกับ คิงส์ลี่ย์ โกมาน, โธมัส มุลเลอร์ แล้วก็ แซร์จ นาบรีย์
ครึ่งเเรก ผ่านไปเพียง 8 นาที บียาร์เรอัล ออกนำ 1-0 เมื่อทาง โจวานนี่ โล เซลโซ่ สอดมาทางขวามือแล้วดีดให้ ดานี่ ปาเรโฆ ยิงเข้าทาง อาร์เนาต์ ดานยูม่า สอยตาข่ายไม่พลาด
เล่นไปถึงนาทีที่ 41 เจ้าบ้านพลาดได้ประตูที่สอง ฟร็องซิส โกเกอแล็ง สอดเข้าจุดโทษด้านซ้ายก่อนที่จะเปิดกลับเข้าในบอลลอยเป็นใจ มานูเอล นอยเออร์ เสียบเสาไกล แต่ไม่ได้เพราะว่า วีเออาร์ จับเป็นจังหวะล้ำหน้าก่อนแล้ว
ครึ่งหลังนาทีที่ 50 บาเยิร์น คลาดโอกาสตีเสมอเมื่อทาง แซร์ช นาบรี หาจังหวะยิงยัดเข้ามาบอลหลุดจากกองหลังแต่ โธมัส มุลเลอร์ ตั้งเท้าแปแต่หลุดเสาไกล
ถัดมาในนาทีที่ 53 เรือดำน้ำสีเหลือง มีจังหวะลุ้นประตูที่สองเมื่อทาง เคราร์ด โมเรโน่ ยิงไกลด้วยซ้ายบอลหนีมือ มานูเอล นอยเออร์ ไปชนเสาไกลอย่างจัง
เสือใต้ พยายามทำเกมแต่ดูไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่ นาที 82 ลีรอย ซาเน่ ยิงไกลแต่บอลไม่ผ่านมือ เคเรนีโม่ รูยี่
จบเกม บียาร์เรอัล เอาชนะ บาเยิร์น 1-0 จับการได้เปรียบก่อนนัดสองต้องบุกไปเยือนอัลลิอันซ์ อารีนา รังเหย้าของบาเยิร์น มิวนิคบ้าง ในคืนวันอังคารที่ 12 เมษายนนี้
รายนามผู้เล่นที่ลงสู่สนาม
บียาร์เรอัล : เคโรนีโม่ รูยี่,ฮวน ฟอยธ์ (แซร์ซ ออริเย่ร์ น.81),ราอูล อัลบิโอล,เปา ตอร์เรส,เปร์บิส เอสตูปินัญ,ฟรานซิส กอเกอแล็ง (อัลฟอนโซ่ เปดราซ่า น.59),เอเตียน กาปู,ดานี่ ปาเรโฆ่,เคราร์ด โมเรโน่,อาร์เนาต์ ดันยูม่า (?ซามูเอล ชุควูเซ น.81),โจวานี่ โล เซลโซ่
บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์,แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ (นิคลาส ซือเล่ น.71),ดาโยต์ อูปาเมกาโน่,ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ,อัลฟอนโซ่ เดวิส,โยชัว คิมมิช,จามาล มูเซียล่า,คิงส์เล่ย์ โกมัน,โธมัส มุลเลอร์ (เลออน โกเรตซ์ก้า น.62-มาร์ค โรคา น.90+4),แซร์ซ นาบรี้ (เลรอย ซาเน่ น.62),โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
More Stories
“มาดามแป้ง” เผยตัวเลขอัดฉีดจากผู้ใหญ่ใจดี รับเหนาะๆ หลัง ไทย U23 เชือด อินโดฯ
“บิว ภูริพล” มอบเหรียญทองซีเกมส์ 2021 ให้คุณแม่ สุดปลาบปลื้ม
ดวลลูกโทษ ฟอเรสต์ ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เข้าชิงตั๋วเลื่อนชั้นพรีเมียร์ลีก